ระหว่างวันที่ 20-21 ตุลาคม 2568
ส่วนตรวจและบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 14 ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชุมพร ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพรสำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร สถานีพัฒนาที่ดินชุมพร สำนักงานประมงจังหวัดชุมพร สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ชุมพร สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมและลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาตามข้อหารือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรณีผู้ประกอบกิจการนากุ้งปล่อยน้ำเสียเข้าที่สาธารณะส่งผลกระทบต่อประชาชน ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 13 ตำบลบางมะพร้าว อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร จากผลการตรวจสอบพบว่า
1) ผู้แทนสถานีพัฒนาที่ดินชุมพรได้ทำการตรวจวิเคราะห์ค่าความเป็นกรดและด่างของที่ดินในแปลงสวนปาล์มน้ำมันของผู้ได้รับผลกระทบ พบว่ามีค่าความเป็นกรดรุนแรงไม่เหมาะสมแก่การเพาะปลูก และจากการตรวจสอบกลุ่มของดินพบว่า อยู่ในชุดดินเชียรใหญ่ซึ่งเป็นดินที่มีความเป็นกรดจัด ซึ่งสถานีพัฒนาที่ดินชุมพรได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างดินไปตรวจสอบยังห้องปฏิบัติการและจะแจ้งผลการตรวจวิเคราะห์ให้ สคพ.14 ทราบในลำดับถัดไป
2) จากการสอบถามเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันผู้ได้รับผลกระทบ ทราบว่าต้นปาล์มน้ำมันที่ตายมีจำนวนประมาณมากกว่า 900 ต้น ก่อนที่บริษัท มรกตฟาร์ม จำกัด จะเข้ามาดำเนินกิจการ สวนปาล์มน้ำมันได้รับผลผลิตประมาณ 20 ตันต่อ 27 ไร่ ต่อ 1 รอบการเก็บเกี่ยว และหลังจาก
บริษัทฯ เข้ามาดำเนินกิจการต้นปาล์มน้ำมันจึงเริ่มตาย
3) ผู้แทนสำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร ให้ข้อมูลว่าต้องใช้ข้อมูลจากการสอบถามเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันในช่วงระยะเวลาเกิดเหตุและผลการวิเคราะห์ตัวอย่างดินมาประกอบ เพื่อประมวลผลว่าต้นปาล์มน้ำมันตายด้วยสาเหตุใดต่อไป และจะรายงานผลการตรวจสอบมายัง สคพ.14 ทราบ เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
คณะผู้ตรวจสอบมีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเกษตรจังหวัดชุมพร สถานีพัฒนาที่ดินชุมพร สำนักงานประมงจังหวัดชุมพร ที่ว่าการอำเภอหลังสวน สำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ชุมพร องค์การบริหารส่วนตำบลบางมะพร้าว องค์การบริหารส่วนตำบลนาพญา พิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่